|
|
โครงการเรียนรู้ร่วมกันสรรค์สร้างชุมชน โดยอาจารย์นิเทศกลาง | |
|
เว็บเพจสำรอง (Backup Webpages) : http://www.thaiall.com/learntambon
ปรับปรุง : 2549-02-28 (ปี 2549 ไม่มีโครงการนี้แล้ว)
โครงการเรียนรู้ร่วมกันสรรค์สร้างชุมชน มี 8 กิจกรรม
แบ่งพื้นที่เป็น 2 ลักษณะคือ พื้นที่ขยายผล และพื้นที่ใหม่
ประกาศรายชื่อนักศึกษาที่เข้าโครงการปี 48 http://www.mua.go.th/Learning/choose48.htm
ประกาศรายชื่อนักศึกษาที่เข้าโครงการปี 47 http://www.mua.go.th/Learning/choose47.htm
กระผมเป็นอาจารย์นิเทศกลาง สำหรับกิจกรรมอินเทอร์เน็ตตำบล กลุ่มภาคเหนือ 1 (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ปี 2547
เป็นตัวแทนของวิทยาลัยโยนก เป็นอาจารย์นิเทศกลางร่วมกับอาจารย์จาก ม.เชียงใหม่ ม.พายัพ และสถาบันราชมงคล
[ เอกสารประกอบการอบรม 2547 (learn47.doc) ]
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต คือ อุทิศตัวเองให้แก่อุดมการณ์ที่ตนเองเห็นว่ามีความสำคัญที่สุด
..Georce Bernard Shaw, ค.ศ.1856-1950 จากหนังสือ คู่มือนิสิตนักศึกษา ในการปฏิบัติงาน โครงการเรียนรู้ร่วมกัน สรรค์สร้างชุมชนปี 2547 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
|
|
1. ความเป็นมา
จาก : สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
- จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2544 วันที่ 8, 15 และ 29 มกราคม 2545 ได้มีมติซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ว่า ในช่วงปิดภาคการศึกษาประจำปีการศึกษาควรจะได้จัดให้มีโครงการเพื่อให้นิสิตนักศึกษา รวมถึงอาจารย์ได้กระทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ก่อเกิดรายได้หรือเพิ่มทักษะด้านอาชีพ มีการฝึกฝน และดำเนินการในฐานะผู้ประกอบการ รุ่นใหม่ (Young Entrepreneur) ในอนาคต โดยกำหนดกรอบและแนวทางโดยย่อ คือ
- - ให้นิสิตนักศึกษาได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง (Activity Based Learning)
- - พัฒนาความเป็นผู้นำ (Leadership Development) มีความขยัน มานะ อดทน
- - มีงานทำ และได้ค่าตอบแทนจำนวนหนึ่งเพื่อแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง
- - ได้รับประสบการณ์ รู้จักและเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชาวชนบท
- - ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และประเพณีท้องถิ่น
- - ให้นักศึกษาในสาขาวิชาต่างกันเข้าร่วมการดำเนินงานในลักษณะเป็นทีม สามารถนำความรู้ไปร่วมกันพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างครบถ้วน รอบด้านและเป็นสหวิทยาการ (Inter- Disciplinary)
- - ใช้ภูมิปัญญาของนิสิตนักศึกษาและชุมชนร่วมกันพัฒนาท้องถิ่น สร้างความคิด สร้างสรรค์ มีนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงกับการใช้งานได้จริง ในชุมชน เป็นการเชื่อมโยงสถาบันการศึกษาไปสู่ชุมชน
- - หน่วยราชการ ชุมชน ได้รับรายงาน ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ต่อการวางแผนพัฒนาชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการกำหนดนโยบายในภาพรวมของประเทศ
|
2. นายกรัฐมนตรีมอบนโยบาย รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
จาก : http://www.thaigov.go.th/news/press/thaksin/pr26mar46-1.htm
ข่าวที่ 03/26-1 วันที่ 26 มีนาคม 2546
5Es :e-Thailand : e-Government, e-Education, e-Society, e-Commerce และ e-Industry
- วันนี้ เวลา 09.00 น. ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) จัดโดย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมมอบนโยบายและทิศทางการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อให้ รัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงทุกกระทรวง รับทราบนโยบายและยุทธศาสตร์แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่าง ๆ เพื่อร่วมกันหาทางปรับเปลี่ยนวิธีการ และรูปแบบในการดำเนินการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ให้เกิดความสมบูรณ์ และประสบความสำเร็จร่วมกัน อันจะนำไปสู่การเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการทำงานของระบบราชการ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการรับบริการที่รวดเร็วและปลอดภัย
- คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวรายงานว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Government เป็นหนึ่งในห้ายุทธศาสตร์ของแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย ระหว่างปี 2545-2549 ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนำมาดำเนินการ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่สังคมอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มภาคภูมิ โดยมีอีก 4 ยุทธศาสตร์ที่เหลือ คือ e-Education การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการพัฒนาด้านการศึกษา e-Society การใข้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการพัฒนาด้านสังคม e-Commerce การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาด้านพาณิชย์ และ e-Industry การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งยุทธศาตร์ทั้ง 5 e จะสามารถนำประเทศไทยก้าวไปสู่ความเป็น e-Thailand ซึ่งหมายถึงสังคมที่พร้อมด้วยภูมิปัญญาและการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน นอกจากนี้การเรียนรู้และการทำความเข้าใจร่วมกันถึงความสำเร็จของผู้อื่นทั้งในและต่างประเทศ จะเป็นหนทางของการเรียนลัดที่จะทำให้สามารถนำแบบอย่างที่ดี และเกิดความสะดวกแล้วมาประยุกต์ใช้ เพื่อนำไปสู่การสร้างมิติใหม่ในการให้บริการประชาชน และการบริหารงานภายในองค์กร
- โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดการสัมมนาและมอบนโยบาย รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ว่า วันนี้ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารราชการ หลังจากที่ได้มีการปฏิรูประบบราชการ ขณะนี้ทุกหน่วยงานราชการกำลังเร่งพัฒนาระบบการทำงานและระบบการให้บริการประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ยึด ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ จะต้องมีความตื่นตัวและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาหน่วยงานของตนเองให้มีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาองค์กรไปสู่ระบบเทคโนโลยีที่มีความรวดเร็วและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันในด้านต่าง ๆ สูงมาก
- อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงประเทศไทยในปัจจุบันว่า ต้องการมีความรวดเร็วในการบริหารประเทศและพัฒนาองค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จึงจะต้องมีกระบวนการดำเนินการที่รวดเร็ว มีระบบส่งผ่านข้อมูลที่สามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้บริหาร ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการจัดทำ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ อย่างจริงจังและถือเป็นนโยบายสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐจะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม กล่าวคือทุกหน่วยงานจะต้องมีเว็บไซด์เป็นของตนเอง ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2547 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานระดับกรมที่มีการกระจายการทำงานไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ต้องมีอินทราเน็ตที่เชื่อมโยงข้อมูลภายใน ส่วนระดับกระทรวงจะต้องมีระบบการเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานราชการทุกแห่งให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เพราะสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการค้นหาข้อมูลที่หลากหลาย ถูกต้อง รวดเร็ว และมีความน่าเชื่อถือต่อการตัดสินใจของระดับผู้บริหาร ที่มีมุมมองกว้างไกลมากยิ่งขึ้น
- ปัจจุบันโดยภาพรวมประเทศไทยค่อนข้างมีความล่าช้าต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันปรับเปลี่ยนระบบการพัฒนาประเทศในทุก ๆ ด้านให้ทันต่อความเร็วของโลก เพื่อรักษาสถานภาพเดิมของประเทศไทยไม่ให้เกิดความล้าหลัง ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งปรับความเร็วของประเทศให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลก ซึ่งคาดว่าภายใน 6 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะต้องเร่งความเร็วได้ในทุกมิติ เพื่อให้มั่นใจว่าในอนาคตประเทศไทยจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีของโลก เพราะฉะนั้นการทำระบบ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ จึงต้องทำควบคู่กับอัตราความเร็ว ตลอดจนมีความแม่นยำและทันต่อเวลา ซึ่งจะต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้สำเร็จลุล่วงภายในสิ้นปีนี้ แต่หลังจากนั้นจะต้องมีการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่ให้บริการประชาชน จะต้องนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บริการประชาชน เช่น กรมสรรพากรที่ให้บริการประชาชนด้วยการจัดเก็บภาษีผ่านทางอินเตอร์เนต หรือมหาวิทยาลัยให้บริการนักศึกษาในการลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เนต เป็นต้น
- สำหรับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะทำหน้าที่เป็นผู้แทนของรัฐบาลในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับภาคเอกชนได้ อันจะนำไปสู่การได้รับข้อมูลที่หลากหลาย และนำมาวิเคราะห์ ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดความคิดที่รู้จริง อันจะนำไปสู่การตัดสินที่อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญ แต่ทั้งนี้จะต้องมีระบบการบริหารและการจัดการที่ดีในองค์กรมารองรับด้วย ถึงจะประสบความสำเร็จตามนโยบายที่วางไว้ และเพื่อพวกเราทุกคนจะได้มีองค์กรและมีประเทศที่เข้มแข็ง หากหน่วยงานใดมีปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านงบประมาณ หรือการขาดแคลนอุปกรณ์ต่าง ๆ ขอให้แจ้งรัฐบาลทราบ เพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือสนับสนุน พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัฐมนตรีทุกคนให้ความสำคัญและสนับสนุน รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเอาใจใส่ต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ อันจะนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพและสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้มากยิ่งขึ้นต่อไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก ลัดดา /รายงาน ดวงฤดี/ตรวจ
|
3. อาจารย์นิเทศกลาง กิจกรรมอินเทอร์เน็ตตำบล : อ.บุรินทร์ รุจจนพันธุ์ burin@yonok.ac.th 0-1992-7223 จาก วิทยาลัยโยนก
เธอคนนี้ชื่อ ศิริรุ่ง ช่วยดูแล อำนวยความสะดวกของอาจารย์นิเทศกลาง ระหว่างเดินทางเข้าพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวแทนจากมช. ที่ได้รับมอบหมายจากทบวง ใต้ชื่อกลุ่มภาคเหนือ 1 ให้ดูแล 8 พื้นที่ แต่ละพื้นที่จะรับผิดชอบโดยสถาบันต่าง ๆ อีกทีหนึ่ง
- พร้าว น้ำแพร่ มช.
- เวียงแหง เชียงใหม่ มช.
- แม่สะเรียง,แม่ฮ่องสอน,สรภ.ชม
- แม่นาเติง,แม่ฮ่องสอน,นอร์ท ชม
- นิคมพัฒนา ลำปาง สรม.ลำปาง
- แจ้ซ้อน ลำปาง โยนก
- วรนคร น่าน ม.พายัพ
- ผาทอง น่าน สรม.น่าน
|
ภาพชุดนี้ถ่ายจากมุมมองของอาจารย์นิเทศกลาง ท่านหนึ่ง เพื่อเก็บเป็นที่ระลึก
สิ่งที่ต้องการให้สังเกตคือ ลักษณะพื้นที่แต่และแห่งไม่เหมือนกัน บางตำบลต้องเข้าไปด้วย
ถนนลูกรังกว่า 18 กม. แบบรถสวนไม่ได้เพราะข้างทางเป็นเหว ขับรถต้องระวังมาก เพราะบางช่วง
มีน้ำกัดเซาะ ขับเร็วจะทำให้คนในรถเด้งไป เด้งมา การให้คำปรึกษาของอาจารย์นิเทศกลาง จะขึ้นอยู่
กับความพร้อมของนักศึกษา และชุมชน เพราะบางกลุ่มยังเขียนเว็บ หรือทำ Database ไม่ชำนาณ
ส่วน อบต. หลายแห่งโทรศัพท์ก็ยังไม่เข้า ทำให้การพัฒนาเว็บไซต์ไม่เหมาะกับหลายพื้นที่
เพราะไม่มีคนดูแลต่อไป กิจกรรมที่เป็นไปได้และชัดเจนคือการอบรมชุมชนให้รู้จักคอมพิวเตอร์
internet e-Commerce ไว้บ้าง
|
|
4. รายชื่ออาจารย์นิเทศกลาง กลุ่มภาคเหนือ 1 ( 2546 - 2547 )
1. หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
- ดร.ประเสริฐ หาญเมืองใจ (47)
- อ.ณงค์ณุช นทีพายัพทิศ (46)
- อ.เรืองยศ ใจวัง (46)
จาก วิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่
2. อินเทอร์เน็ตตำบล
- อ.ชุติมา ชวสินธุ์ (46) ?
จาก วิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่
- อาจารย์บุรินทร์ รุจจนพันธุ์ (46, 47)
จาก ราชภัฎลำปาง (วิทยาลัยโยนก)
3. ผังเมือง/ชุมชน/หมู่บ้าน
- อ.รัฎฐา ฤทธิศร (47)
- อ.อัจฉรา วัฒนภิญโญ (46)
- อ.อิศรา กันแตง (46)
4. ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
- รศ.ดร.ถนอม คลอดเพ็ง (47)
- ผศ.ดร.เสริมเกียรติ์ จอมจันทร์ยอง (46)
- รศ.ดร.ดนัย บุณยเกียรติ (46)
|
5. สุขภาพชุมชน/สาธารณสุข
- อ.วราภรณ์ สระมัจฉา (45, 46, 47)
จาก มหาวิทยาลัยพายัพ
- อ.จิตนธี เขนย (46)
6. สมุนไพร/อาหารเสริม
- รศ.พาณี ศิริสะอาด (46, 47)
- ผศ.ดร.สุรพล นธการกิจกุล (46)
7. ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
- รศ.ดร.อุดม ชัยทอง (45, 46, 47)
- อ.ศักดิ์ รัตนชัย (46)
จาก วิทยาลัยโยนก
8. การท่องเที่ยว
- อ.ชาญชัย เมฆศิริ (47)
จาก มหาวิทยาลัยพายัพ
- อ.ฉัตรแก้ว สิมารักษ์ (46)
- อ.มานพ มานะแซม (46)
|
|
5. โครงการนี้มีกิจกรรม 8 ลักษณะ : (มีบางพื้นที่ไม่เหมาะที่จะทำบางกิจกรรม)
- หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์
- อินเทอร์เน็ตตำบล
- ผังเมือง/ชุมชน/หมู่บ้าน
- ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
- สุขภาพชุมชน/สาธารณสุข
- สมุนไพร/อาหารเสริม
- ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
- การท่องเที่ยว
|
6. สรุปกิจกรรมอย่างไม่เป็นทางการ (เมื่อพิจารณาจากชื่อโครงการ)
- ไปเรียนรู้ เก็บข้อมูลว่าชุมชนเป็นอย่างไร ต้องการอะไร และกลุ่มจะทำอะไรได้บ้าง (ประมาณ 1 สัปดาห์)
- ทำกิจกรรม เพื่อช่วยเหลือ และสรรค์สร้างชุมชน ในสิ่งที่ชุมชนต้องการ (ขณะอยู่ในพื้นที่)
EX: อบรมทุกระดับ, พัฒนาเว็บไซต์(กลุ่ม, e-Commerce, เว็บตำบลดอทคอม), information center, พัฒนาฐานข้อมูลชุมชน, จัดบอร์ดให้ความรู้ เป็นต้น
- ประเมิน สรุป และเสนอแนะ ต่อชุมชน เชิงสร้างสรรค์ (ประมาณสัปดาห์สุดท้าย)
- นำทุกอย่างมา เขียนเป็นรายงาน เสนอต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง (1 เดือนที่สอง)
|
7. แนะนำกิจกรรมสำหรับกลุ่มอินเทอร์เน็ตตำบล เลือกทำกิจกรรม จากความเหมาะสมของชุมชนนั้น ๆ
- เก็บข้อมูลชุมชน เช่น บริการในชุมชน การสื่อสาร การศึกษา การมีงานทำ เป็นต้น โดยแยกแต่ละหมู่บ้านโดยชัดเจน
- สรุปข้อมูลเป็นตาราง กราฟ และภาพประกอบ จากการสำรวจ ในส่วนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี การสื่อสาร และการศึกษา เป็นต้น
- ทำแบบสอบถามความต้องการ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ internet เพื่อนำไปวางแผนทำกิจกรรมต่อไป
- ทำกิจกรรมเพื่อชุมชน ให้เขียนโครงการที่ชัดเจนเสนอผู้เกี่ยวข้อง เช่น อบรม สัมมนา หรือประชุมกลุ่มย่อยในแต่ละชุมชน เป็นต้น
- ช่วยเหลือ หรือจัดโครงร่าง หรืออบรม การจัดทำ Website นำเสนอข้อมูลตำบล หรือ e-Commerce เป็นต้น
- ช่วยเหลือ หรือจัดโครงร่าง หรืออบรม การจัดทำ Website นำเสนอด้านการศึกษาของนักเรียนในตำบลที่สนใจเป็นพิเศษ e-Education เป็นต้น
- เป็นตัวแทนกลุ่ม นำเสนอข้อมูลที่ได้จากการเรียนรู้ เผยแพร่ใน website เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชุมชน รุ่นน้อง และสถาบัน ในปีต่อไป
- วางแผน และช่วยเหลือกลุ่มอื่น ๆ ในการเก็บข้อมูลให้เป็นระเบียบ เพื่อเตรียมจัดทำรายงานเป็นรูปเล่ม รวมของทุกกลุ่ม
- รวบรวมปัญหา วิเคราะห์ หาข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไข ต่อทุกฝ่าย
|
8. เสนอรูปแบบเพิ่มเติม จากในเล่มสีส้มประจำปี 46 (หน้า 23 เล่มสีส้ม)
หัวข้อหลัก ในรายงานแยกกิจกรรม (พิจารณาความเหมาะสม เลือกเฉพาะเรื่องที่สำคัญลงรายงาน)
- คำนำ, สารบัญ, บทนำ
- สภาพทั่วไป เฉพาะที่น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับกิจกรรม ของแต่ละหมู่บ้าน
- ผลการศึกษาที่เกี่ยวกับกิจกรรม ในรูปแผนภาพ ทำให้เข้าใจง่าย
- การดำเนินกิจกรรม ผลการดำเนินงาน และผลที่ได้รับ ของแต่ละกิจกรรมย่อย หรือโครงการ
- วิเคราะห์ สังเคราะห์ ชี้ให้เห็นปัญหา และอุปสรรค์ แต่ละกิจกรรมย่อย หรือโครงการ
- โครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่เสนอแนะต่อชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาต่อไป
- ข้อเสนอแนะในด้านต่าง ๆ แยกทุกฝ่าย เป็นแต่ละหัวข้อที่ชัดเจน
- ภาคผนวก: ข้อมูลอ้างอิง ที่มา ข้อมูลดิบ และแบบสอบถาม
หัวข้อย่อย ในแต่ละหัวข้อหลัก (พิจารณาความเหมาะสม และข้อมูลเป็นหลัก)
- โครงการ หรือกิจกรรมย่อย
- ชุมชนโดยรวม ประชากร พื้นที่ เป็นต้น
- ผู้นำชุมชน แต่ละฝ่าย แต่ละระดับ
- ทบวง หรือสถาบันที่ได้รับมอบหมายจากทบวง
- สถาบันผู้ประสานงาน
- นักศึกษารวมทุกกิจกรรม หรือเฉพาะกลุ่ม
องค์ประกอบของรายงาน (เป็นเพียงข้อเสนอแนะ)
- ระบบหน้าคู่คี่ header footer มีเลขหน้า ชื่อพื้นที่ ชื่อโครงการ ชื่อสถาบันที่รับผิดชอบ ชื่อกิจกรรม เป็นต้น
- เชิงอรรถ บรรณานุกรม ขอขอบคุณ ที่อยู่และเบอร์โทรของผู้จัดทำ
- ภาพประกอบควรย่อขนาด และ crop เฉพาะที่สำคัญ เพื่อประหยัด และการจัดหน้าอย่างเหมาะสม
- ในรายงานควรมีภาพถ่ายของสมาชิก พร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบ หรือกิจกรรมที่มอบหมายในกลุ่ม
- มี Gantt chart แสดงการทำกิจกรรมทั้งหมด โดยละเอียด
- ผลัดกันอ่านกับเพื่อนกิจกรรมอื่น เพราะหาข้อผิดพลาด หรือคำสะกดผิด
- อ่านเล่มสีส้มให้ละเอียดอีกครั้ง ว่ามีอะไรควรเพิ่มเติมในรายงาน หรือไม่
- ผู้จัดทำควรมีเก็บไว้กับตัวคนละชุด และสำเนาให้พื้นที่ตามความเหมาะสม
|
นักศึกษาในโครงการ
ลองชุดให้ดูซึ่งเป็น
สินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์
|
|
9. กิจกรรมเมื่ออาจารย์นิเทศเข้าไปยังพื้นที่ (แต่ละพื้นที่อาจแตกต่างกันไป)
- ประธานกลุ่ม ซึ่งเป็นตัวแทนจากนักศึกษาทั้งหมด กล่าวถึงสภาพทั่วไป และเป็นผู้ดำเนินการเรียกตัวแทนกิจกรรม ออกมารายงาน
- แต่ละกิจกรรมส่งตัวแทนมารายงานภายรวมของกิจกรรม ให้อาจารย์นิเทศทั้งคณะฟัง (กิจกรรมละไม่น่าเกิน 5 นาที)
- แต่ละกิจกรรมแยกตัวไปพบอาจารย์นิเทศแต่ละกิจกรรม (อาจใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง)
|
10. องค์ประกอบของ e-Commerce
- ผู้ซื้อ
- ผู้ขาย
- ระบบชำระเงิน
- ระบบขนส่ง
ผมเขียนเรื่อง e-Commerce ไว้ที่ http://www.thaiall.com/article/ecommerce.htm
|
11. องค์ประกอบของ e-Learning
- ระบบจัดการการศึกษา (Management education system)
- เนื้อหาวิชา เป็นบท และเป็นขั้นตอน (Contents)
- การสื่อสารระหว่างผู้เรียน และผู้สอน (Communication)
- การวัดผลการเรียน (Evaluation)
ผมเขียนเรื่อง e-Learning ไว้ที่ http://www.thaiall.com/e-learning รวมทั้งเรื่อง moodle
|
")
if(url == "www.yonok.a") document.write("")
if(url == "www.thaiall") document.write("")
if(url == "www.perlphp") document.write("")
if(url == "thaiall.kor") document.write("")
-->